ศิษย์พี่ผู้นั้น... - ศิษย์พี่ผู้นั้น... นิยาย ศิษย์พี่ผู้นั้น... : Dek-D.com - Writer

    ศิษย์พี่ผู้นั้น...

    เห็นคลิปซีรี่ย์เก่าๆ ของหลัวอวิ๋นซี มีฉากระเบิดอารมณ์ตอนต่อสู้แล้วถูกใจมาก จินตนาการบรรเจิดกลายมาเป็น one shot สั้นๆ เรื่องนี้..ไม่เน้นรู้เรื่อง เน้นได้ใช้จินตนาการ https://vt.tiktok.com/ZSLYBWUdw/

    ผู้เข้าชมรวม

    47

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    47

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 มิ.ย. 66 / 21:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ศิษย์พี่ผู้นั้น...

                       เป็นครั้งแรกที่เหล่าศิษย์ในสำนักได้เห็นศิษย์พี่ผู้สูงส่งมีสีหน้าคลุ้มคลั่ง...

    การเคลื่อนไหวของเขาพริ้วไหวราวกับเทพเซียน ทั้งแผ่วเบา ลื่นไหล สง่างาม แต่ท่วงท่าการโจมตีกลับดุดัน โหดเหี้ยมราวกับปีศาจ 

              ศิษย์พี่ผู้เที่ยงตรง เคร่งครัด เย็นชา แม้เขาไท่ซานทลายลงมาก็ไม่อาจทำให้กะพริบตาเปลี่ยนสีหน้าได้ผู้นั้น กำลังต่อสู้ด้วยสีหน้าราวกับระเบิดอารมณ์ทั้งหมดออกมาในคราวเดียวเพียงเพราะปะทะกับเจ้าสำนักพรรคมารคนหนึ่ง...อา...ฝีมือเขาต้องร้ายกาจขนาดไหนกันนะ ถึงทำให้ศิษย์พี่แสดงอารมณ์ได้มากมายถึงเพียงนี้

                        

    แน่นอนว่าศิษย์พี่ได้รับชัยชนะ...

     

    แต่แล้วอย่างไรเล่า..สุดท้ายเจ้าสำนักพรรคมารคนนั้นก็หนีรอดไปได้ เหล่าศิษย์น้องทั้งหลายมัวแต่ตื่นตะลึงกับการต่อสู้เมื่อครู่จนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเจ้าสำนักพรรคมารคนนั้นมีชื่อแซ่ว่าอะไร เห็นว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าสำนักคนนั้นทำทุกวิถีทางเพื่อให้ศิษย์พี่เข้าประมือกับตน และเขาทำทุกวิถีทางจริงๆ...ครานี้กลับไม่รู้ว่าก่อกวนด้วยวิธีใดศิษย์พี่ผู้เกือบได้ฉายา(ลับหลัง)ว่าภูเขาน้ำแข็งหมื่นปีถึงกับแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดได้ชนิดที่ว่าไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นมาก่อน เกรงว่าคงมีแต่ระดับปรมาจารย์ที่รับศิษย์พี่เข้าสำนักเท่านั้นที่น่าจะบอกได้ว่าเคยเห็นอารมณ์รุนแรงเช่นนี้จากเขาหรือไม่

              ศิษย์พี่ไม่ปริปากบอกต้นสายปลายเหตุเช่นเคย กลับไปเป็นศิษย์พี่ผู้สูงส่ง เย็นชา ท่ามกลางวงล้อมสนทนาของศิษย์ร่วมสำนักคนอื่นๆ ทุกคนกำลังถกกันถึงคู่ต่อสู้พรรคมารคนนั้น อะไรคือแรงจูงใจ? ทำไมเจาะจงเล่นงานแต่ศิษย์พี่? มีบุญคุณความแค้นติดค้างหรือเพราะ...พึงใจในตัวศิษย์พี่?

              อยู่ ๆ ทุกคนก็ทำสีหน้าประหลาดก่อนจะทอดสายตาไปยังภูเขาน้ำแข็งกลางวงสนทนาผู้นั้น...ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จากยอดน้ำแข็งหมื่นปี กระทั้งร่องรอยขมวดคิ้วสักเล็กน้อยก็ไม่ปรากฏ

              

    “เจ้าสำนักคนนั้นไม่ได้ชอบพอในตัวศิษย์พี่หรอกข้าว่า เค้าแค่หลงใหลน่ะ” เสียงตอบรับไม่ดังไม่เบาเสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายบรรยากาศวังเวงของการสนทนากับก้อนน้ำแข็งยักษ์

    “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ไม่ชอบพอแต่หลงใหลเนี่ยนะ?” น้ำเสียงสับสนจากบรรดาศิษย์ถามขึ้น

    “ใช่ ที่เจ้าสำนักคนนั้นหลงใหลคือสีหน้าระเบิดอารมณ์ยามต่อสู้ของศิษย์พี่ไงล่ะ...พวกเจ้าก็เห็นแล้วว่าการต่อสู้วันนี้ศิษย์พี่แสดงสีหน้าเช่นไร เป็นการแสดงสีหน้าที่พันปีมีให้เห็นสักครั้งยังยากเย็นใช่หรือไม่? แต่พอเห็นแล้วกลับ...น่าตื่นตะลึง ทั้งยังน่าหลงใหล” เสียงอธิบายเว้นช่วงหายไปตามด้วยเสียงดื่มชาอึกใหญ่

    “ถ้าพวกท่านประมือกับคู่ต่อสู้ที่ทั้งฝีมือร้ายกาจทั้งมีสีหน้าเปี่ยมไปด้วยอารมณ์รุนแรงขนาดนั้นจะไม่รู้สึกสนุกมากหรอกหรือ? เจ้าสำนักพรรคมารคนนั้นเพียงเพื่อได้เห็นสีหน้าแสดงอารมณ์รุนแรงอันน่าหลงใหลของศิษย์พี่ถึงกับคิดวิธีก่อกวนได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างมีความสามารถมากจริงๆ” ในคำอธิบายนั้นมีน้ำเสียงหยอกเย้าปะปนอยู่เล็กน้อยแต่คนในวงสนทนากลับคล้อยตามสิ่งที่ได้ยิน

     

    “หรือเจ้าก็อยากก่อกวนข้าเหมือนเช่นพรรคมารคนนั้น?” 

     

    น้ำเสียงสุขุม นุ่มลึกของศิษย์พี่ถึงกับแสดงความไม่พอใจในท้ายประโยค...อา เจ้าสำนักพรรคมารคนนั้นช่างมีฝีมือจริง ๆ ...นับถือ ๆ

    “มิได้ศิษย์พี่ ตัวข้าเป็นเพียงศิษย์ปลายแถวแม้อยากเห็นท่านแสดงสีหน้าหลากหลายเช่นไรก็ยังไร้ซึ่งความกล้าหาญที่จะลงมือ ไม่บังอาจทำให้ท่านขุ่นข้องหมองใจได้” ท่าทางคารวะเต็มพิธีการยามอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสถูกแสดงออกมา ภูเขาน้ำแข็งหมื่นปีตรงหน้ากลับมีสีหน้าเย็นชาขึ้นสามส่วน หว่างคิ้วมีรอยมุ่นเจือจางคล้ายมีคล้ายไม่มี 

    “ศิษย์พี่อย่าได้ถือสาเลย นางยังเด็กทั้งยังเป็นศิษย์ปลายแถว อะไรควรอะไรไม่ควรย่อมยังแยกแยะไม่ได้ กลับไปพวกข้าจะอบรมศิษย์เหล่านี้ให้มาก” ยังเป็นศิษย์พี่ผู้อยู่ใกล้ภูเขาน้ำแข็งที่สุดผู้นั้นคอยไกล่เกลี่ยเช่นเคย ข้าแอบไหว้คารวะขอบคุณเขาในใจสามครั้งถ้วน

    อันที่จริงศิษย์พี่ภูเขาน้ำแข็งผู้นี้ก็ถือว่ามีใจกว้างขวางอยู่มาก เขาถึงกับนั่งรับฟังวงสนทนาที่วิพากย์วิจารณ์ราวกับเขาไม่มีตัวตนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน ถ้าไม่ใช่เพราะสีหน้าระเบิดอารมณ์รุนแรงที่ทำให้เจ้าสำนักพรรคมารหลงใหลครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าคงคิดว่าเขาฝึกวิชาเซียน ‘มรรคาไร้รัก’ จนบรรลุแล้วแน่ ๆ  เอาเถอะ...ถึงอย่างไรศิษย์พี่ก็ยังเป็นผู้มีวิทยายุทธ์สูงส่งเป็นรองเพียงปรมาจารย์เจ้าสำนักอยู่ดี ตัวก่อกวนจากพรรคมารผู้นั้นมากความสามารถด้านแผนการก็จริงแต่ฝีมือการต่อสู้กลับเห็นได้ชัดว่าด้อยกว่าภูเขาน้ำแข็งหมื่นปีถึงสามส่วน

     

    ข้าจะเฝ้ารอการก่อกวนครั้งต่อไปแล้วกัน...ศิษย์พี่ผู้นั้นจะแสดงสีหน้าอย่างไรกันนะ?

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×